บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

ทำไม.. นักพุทธปรัชญาจึงตกนรก???


ทำไม.. นักพุทธปรัชญาจึงตกนรก???

บทความนี้.. เกิดจากผมไปสนใจฟังคำสอนของอาจารย์ที่สอนพุทธปรัชญาท่านหนึ่ง  ถ้าเอ่ยชื่อก็คงมีคนรู้จัก เพราะ ท่านแต่งตำราหลายเล่ม

ครั้งแรกเลย ผมและคณะก็อยากจะตรวจสอบว่า... ดวงบุญของท่านใหญ่โตขนาดไหน?  

เนื่องจากเห็นว่า ท่านบวชเรียนตั้งแต่เป็นเณร ศึกษามาจนได้เป็นอาจารย์ในระดับที่มีชื่อเสียง 

ผลของการตรวจสอบ.... ทำให้ผมตกใจมากคือ........ 

***

ไม่เห็นดวงบุญของท่าน

***

เห็นแต่ดวงบาปดวงใหญ่มากๆ 

ผมก็พยายามศึกษา ท่านมาเรื่อยๆ  จนมาทราบชัดเจนว่า.. ทำไม ไม่เห็นดวงบุญเห็นแต่ดวงบาป ซึ่ง ณ ปัจจุบันนี้ ดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายก็ "ดำสนิท"

แสดงว่า เมื่อแตกกายตายไป  น่าจะไปถึง "นรกโลกันต์" 

ผู้ที่จะตกนรกโลกันต์ได้นั้น  ดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายธรรมพระอรหัตขนาด ๒๐ วา ต้อง "ดำสนิท"  ไม่มีจุดขาวปนเลยแม้แต่นิดเดียว 

ท่านจึงจะได้ "เอกสิทธิ์" ลงนรกโลกันต์ได้ 

กลับมาชี้ประเด็น ขอให้ดูภาพ....  ศาสนาพุทธเราเข้าใจดีก็คือ คำสอนของพระพุทธเจ้าที่มีการสั่งสอนสืบต่อมาโดยสาวกของพระองค์ ก็แตกแยกออกไปหลายนิกาย

ปรัชญาเป็นองค์ความรู้ทางตะวันตก ซึ่งถือได้ว่าเป็น "แม่ของวิชาทั้งปวง"  วิชาต่างๆ ก็หลุดออกมาจากปรัชญาทั้งนั้น

ความแตกต่างระหว่างศาสนาพุทธกับปรัชญาที่สำคัญก็คือ  ในขั้นปรมัตถธรรม ความจริงของศาสนาพุทธ "ไม่ขึ้นกับระบบเหตุผลหรือตรรกะ"  แต่ปรัชญาจะศึกษาทุกอย่างภายใต้ของรระบบเหตุผลหรือตรรกะ

ดังนั้น.....

เมื่อนำปรัชญามาศึกษาศาสนาพุทธ ก็ต้องตัดเรื่อง "นรก-สวรรค์" ออกไป  บางคนผมว่า คงตัด "นิพพาน" ออกไปด้วย 

ที่อธิบายไปนั่น เป็นมุมมองของผมเอง 

ผมว่า.. นักปรัชญาคงมองอย่างภาพล่าง คือ เห็นว่า "ศาสนาพุทธ" เป็นองค์ความรู้ "นิดหนึ่ง" ในองค์ความรู้ของโลกเท่านั้น

ที่นี้ นักพุทธปรัชญา จะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มคือ...

*-*-*-*

[1]..  กลุ่มคนนอก  ก็พวกนักวิชาการต่างๆ พวกนับถือศาสนาอื่น ฯลฯ

[2]..  กลุ่มคนใน   กลุ่มนี้ พระหรือฆราวาสที่เป็นพุทธศาสนิกชน

*-*-*-*

คนที่ผมตรวจสอบแล้วว่า.. ไม่เห็นดวงบุญ เห็นแต่ดวงบาป ดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายดำสนิทนี้ เป็น "กลุ่มคนใน" 

บุคคลท่านนี้ พอไปศึกษาปรัชญา มีอาชีพทางสอนปรัชญา แต่ทำความผิดร้ายแรงคือ "เชื่อปรัชญามากกว่าศาสนาพุทธ" 

นี่แหละ... คือ จุดเริ่มของความฉิบหายวายป่วง 

ผมเองนั้น... จบปริญญาเอกสหวิทยาการ  ก็เรียนปรัชญาโดยตรงนี่แหละ  แต่ผมเชื่อ "พระพุทธเจ้า" มากกว่านักปรัชญาคนอื่นๆ 

เชื่อทั้งในด้านองค์ความรู้ที่พระองค์ทรงสอนออกมา เชื่อทั้งในด้าน "บุญบารมี" ของสมเด็จพระพุทธเจ้า

นักปรัชญาตะวันตกนั้น  องค์ความรู้ที่เผยแพร่ออกมา "ห่างชั้น" กับพระพุทธเจ้ามาก

บุคคลท่านนี้... 

เริ่มสงสัยในพระไตรปิฎก เริ่มสงสัยในพระพุทธเจ้า เริ่มสงสัยไปหมด..... แล้วฟันธงไปว่า พระไตรปิฎกน่าจะมีปัญหา

ผมเองก็สงสัยในพระไตรปิฎกมาก แต่ผมคิดไม่เหมือนบุคคลท่านนั้น  ผมคิดว่า.... "ความรู้ของผมยังไม่พอ" พระไตรปิฎกต้องเป็นจริงแล้ว 

เมื่อไหร่ มีความรู้เพียงพอ ความสงสัยก็จะหายไป

บุคคลท่านนั้น "หลงตัวเอง" โดยจะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ไม่ทราบได้ ถึงกล้าไปฟันธงว่า... พระไตรปิฎกผิด 

บอกตรงๆ ว่า... ผมมีความสงสารท่านบุคคลท่านนี้มาก ที่ชาตินี้ทั้งชาติ เกิดมาเพื่อทำลายตัวเอง

-------------------------

เขียนโดย ดร. มนัส โกมลฑา Ph.D. (สหวิทยาการ)

www.manaskomoltha.net

Facebook Fanpage: https://www.facebook.com/manas4299/

Line ID : manas4299

Youtube: https://www.youtube.com/user/mommeam4299/

โทรศัพท์ : 083-4616989

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น